ฟ้อนเงี้ยว การแสดงอวยพรพื้นเมืองภาคเหนือของชนเผ่าเงี้ยว ที่ปรับปรุงโดยคุณครูลมุล ยมะคุปต์ ปรมาจารย์นาฏศิลป์ไทย

 ฟ้อนเงี้นว การแสดงอวยพรพื้นเมืองภาคเหนือของชนเผ่าเงี้ยว ที่ปรับปรุงโดยคุณครูลมุล ยมะคุปต์ ปรมาจารย์นาฏศิลป์ไทย



เป็นการแสดงพื้นเมืองของชาวเขาเผ่าหนึ่งซึ่งเรียกว่า "เงี้ยว" มีภูมิลำเนาอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย คุณครูลมุล ยมะคุปต์ ผู้เชี่ยวชาญการสอนนาฏศิลป์ วิทยาลัยนาฏศิลป์ กรมศิลปากร ได้มีโอกาสไปสอนละครที่คุ้มเจ้าหลวง เจ้าแก้วนวรัฐ ผู้ครองนครเชียงใหม่ และได้เห็นการรำฟ้อนเงี้ยว เรียกตามภาษาพื้นเมืองว่า "เงี้ยวปนเมือง" ของคุ้มเจ้าหลวง ซึ่งมีนางหลง บุญจูหลง เป็นผู้ฝึกสอนในความควบคุมของพระราชชายา เจ้าดารารัศมี ในรัชกาลที่ 5


ต่อมานางลมุล ยมะคุปต์ ได้รับราชการเป็นครูสอนวิชานาฏศิลป์ ที่วิทยาลัยนาฏศิลป์(ขณะนั้นเรียกว่า "โรงเรียนนาฏดุริยางคศาสตร์") และได้นำลีลาท่ารำฟ้อนเงี้ยวมาปรับปรุงขึ้นใหม่ให้งดงามตามแบบฉบับนาฏศิลป์ไทย บรรจุไว้ในหลักสูตรวิชานาฏศิลป์ เมื่อปี พ.ศ.2478 บทร้องของฟ้อนเงี้ยวมีลักษณะเป็นบทอวยพร คือ อาราธนาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เทพยดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายมาปกป้องคุ้มครองอวยชัยให้พรเป็นสวัสดิมงคลสืบไป


เครื่องดนตรี ได้แก่ วงปี่พาทย์ ซึ่งจะเป็นวงปี่พาทย์เครื่องห้า เครื่องคู่ หรือเครื่องใหญ่ สุดแท้แต่โอกาสและความเหมาะสม


การแต่งกาย ฟ้อนเงี้ยวแสดงได้ชุดหญิงล้วน หรือชุดชาย - หญิง ส่วนใหญ่ลักษณะการแต่งกายมีทั้งแบบชาวเขา แบบฟ้อนเงี้ยวที่กรมศิลปากรประดิษฐ์ขึ้น และแบบพื้นเมือง ที่น่าสังเกต ก็คือผู้แสดงจะถือกิ่งไม้ไว้ในมือทั้งสอง เพื่อเป็นการปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีให้ไปเสีย



เนื้อเพลง

(ภาษาคำเมือง)

ขออวยชัยพุทธไกช่วยก้ำ

ทรงคุณเลิศล้ำไปทุกทั่วตัวตน

จงได้รับสรรพมิ่งมงคล    นาท่านนา

ขอเตวาช่วยรักษาเตอะ

ขอหื้ออยู่สุขา   โดยธรรมานุภาพเจ้า

เตพดาช่วยเฮา   ถือเป็นมิ่งมงคล

สังฆานุภาพเจ้า   ช่วยแนะนำผลสรรพมิ่งทั่วไปเนอ

มงคลเตพดาทุกแห่งหน   ขอบันดลช่วยค้ำจิม


(ภาษาภาคกลาง)

ขออวยชัยพุทธไกรช่วยค้ำ

ทรงคุณเลิศล้ำไปทุกทั่วตัวตน

จงได้รับสรรพมิ่งมงคล   นานท่านนา

ขอเทวาช่วยรักษาเถิด

ขอให้อยู่สุขา   โดยธรรมานุภาพเจ้า

เทพดาช่วยเรา   ถือเป็นมิ่งมงคล

สังฆานุภาพเจ้า   ช่วยแนะนพผลสรรพมิ่งทั่วไปเทอญ

มงคลเทพดาทุกแห่งหน   ขอบันดลช่วยค้ำจุน






ที่มา : สารานุกรม ระบำ รำ ฟ้อน


ความคิดเห็น