ระบำดาวดึงส์ ระบำมาตรฐาน จากละครดึกดำบรรพ์เรื่องสังข์ทอง ที่พรรณนาถึงความสวยงามของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

ระบำดาวดึงส์ ระบำมาตรฐาน จากละครดึกดำบรรพ์เรื่องสังข์ทอง ที่พรรณนาถึงความสวยงามของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์



 เป็นระบำที่ได้ประดิษฐ์ปรับปรุงขึ้น เมื่อสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่วงทำนองมีทั้งจังหวะช้าและเร็วตามลำดับ กล่าวกันว่า ท่ารำที่ผู้แสดงยกมือประสานไขว้ไว้ที่ทรวงอก พร้อมทั้งขยับฝ่ามือขึ้นลงเป็นจังหวะพร้อมกับเต้นย่ำเท้า เป็นท่ารำที่เจ้าฟ้า กรมหลวงพิทักษ์มนตรี ทรงประดิษฐ์ขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โดยเลียนแบบมาจากท่าเต้นทุบอก ในพิธีเจ้าเซ็นของชนนับถือศาสนาอิสลามนิกายเจ้าเซ็น ต่อมาสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงพระนิพนธ์บทร้องขึ้นประกอบการแสดงในบทละครดึกดำบรรพ์ เรื่องสังข์ทองตอนตีคลี บทร้องพรรณนาถึงความสวยสดงดงามเทพบุตรธิดาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และทิพยสมบัตอันมโหฬารตระการตาขององค์อัมรินทร์ นอกจากนี้ยังได้ทรงปรับปรุงท่วงทำนองเพลงและดนตรี ลีลาท่ารำ





ประกอบบทร้องของระบำชุดนี้ หม่อมเข็ม กุญชรฯ ได้ปรับปรุงขึ้นจากท่ารำเจ้าเซ็น ของเจ้าฟ้าฯ กรมพิทักษ์มนตรี รวมทั้งลีลาท่ารำ นับเป็นนาฏศิลป์ที่มีศิลปะสวยงาม เป็นแบบแผนได้อีกชุดหนึ่ง

เนื้อเพลง

ปี่พาทย์ทำเพลงเหาะ

ร้องตะเขิ่ง

ดาวดึงส์เทวโลกมโหฬาร   เป็นที่อยู่สำราญฤทัยหรรษ์

สารพัดงามจริงทุกสิ่งอัน   สารพันอุดมสมใจปอง

เทพบุตรผุดพรรณโฉมยง   งามทรงอาภรณ์ไม่มีหมอง

นางอัปสรงอนสงวนนวลละออง   งามทรงเครื่องทองแลเพชรนิล

ร้องเจ้าเซ็น

สมเด็จพระอมรินทร์ปิ่นมงกุฏ   ทรงวชิรวุธธนูศิลป์

รักษาเทวสีมาเป็นอาจิณ   อสุรินทร์อรีไม่บีฑา

อันอินทรปราสาททั้งสาม   ทรงงามสูงเงื่อมกลางเวหา

สี่มุขหุ้มมาศสะอาดตา   ใบระกาแกมแก้วประกอบกัน

ช่อฟ้าช้อยเฟื้อยเฉื่อยชด   บราลีที่ลดมุขกระสัน

มุขเด็ดทองดาดกนกพัน   บุษบกสุวรรณชามพูนุท

ราชยานเวชยันต์รถแก้ว   เพริศแพร้วกำกงอลงกต

แอกงอนอ่อนสลวยชวยชด   เครือขอช่อตั้งบัลลังก์ลอย

รายรูปสิงห์อัดหยัดยัน   สุบรรณจับนาคหิ้วเศียรห้อย

ดุมพราววาววับประดับพลอย   แปรกแก้วกาบช้อยสะบัดบัง

เทียมด้วยสินธพเทพบุตร   ทั้งสี่บริสุทธิ์ดั่งสีสังข์

มาตรีอาจขี่ขับประดัง   ให้รีบรุดสุดกำลังดังลมพา

ปี่พาทย์ทำเพลงรัว










ที่มา : สารานุกรม ระบำ รำ ฟ้อน









ความคิดเห็น