Alternative Living ชีวิตที่เลือกเอง
วันนี้เราจะมาพูดถึงชีวิตที่เลือกเองได้ ใครที่ยังมีชีวิตที่เลือกไม่ได้ลองมาอ่านบทความที่ผมเขียนทางนี้ดูนะครับ โดยเฉพาะชีวิตที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัยนะครับ เพราะว่าคนกรุงเทพต้องทรมานเหลือเกินกับการเดินทางของคนที่อยู่ชานเมือง หรือแม้แต่คนที่อยู่ในเมืองเองก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ทรมานกับการเดินทางนะครับ เพราะว่าทางเลือกที่เราเคยมีอย่างรถไฟฟ้าก็อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเสมอไป เพราะว่า บางทีคนแน่นมาก บางทีรอ3-4ขบวนขึ้นไม่ได้ บางทีมาบ้างไม่มาบ้าง เพราะรถเสีย
ชีวิตทางเลือกมีอยู่นะครับ อยู่ที่ว่าเราจะเลือกมันรึเปล่าเท่านั้นเอง โดยเฉพาะชีวิตทางเลือกที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัยตอนนี้มีอยู่เยอะแยะมากมาย แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงที่อยู่อาศัยทางเลือกโดยเฉพาะช่วงนี้ที่กำลังเป็นกระแสที่กำลังมาแรงพอสมควรที่กำลังเกิดขึ้นในเมืองใหญ่อย่างลอนดอนกับนิวยอร์ก โดยเราจะพูดถึง microhome
microhome ก็คือบ้านที่หลังเล็กมากๆโดยมีพื้นที่ขนาด6-14ตารางเมตร มีครบทุกอย่างอยู่ในบ้านเล็กๆหลังเดียวมีตั้งแต่ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว โดยบ้าน microhome ถูกออกแบบพื้นที่มาอย่างดีถึงแม้ว่าทุกพื้นที่จะน้อยแต่ใช้สอยอย่างคุ้มค่าและประหยัด ปัจจุบันบ้านแบบ microhome มีในลอนดอน นิวยอร์กและคาดว่าอีกไม่นานในกรุงเทพก็น่าจะมี
แต่บางคนก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าปัจจุบันก็ micro อยู่แล้ว เพราะ36ตารางเมตร หรือ24ตารางเมตรก็เท่ากับที่แมวดิ้นตาย แต่ว่าในอนาคตคาดว่าที่มันจะเล็กกว่านี้อีก เพราะว่าที่ดินมันแพงขึ้นนั่นเอง
บ้านแบบmicrohome
หรือจะเป็นบ้านแบบ container ที่นำตู้คอนเทนเนอร์มาปรับปรุง ดัดแปลง รีโนเวท ติดแอร์ ใส่เฟอร์นิเจอร์เข้าไปก็จบกลายเป็นที่อยู่อาศัยแล้ว
บ้านแบบcontainer
หรือจะเป็นบ้านอีกแบบนึง คือบ้านแบบรถ คือมีทุกสิ่งทุกอย่างที่อำนวยความสะดวกอยู่ในตัวรถคันเดียว แต่ต้องเป็นรถแบบรถบ้านนะครับ ก็ถือว่าเป็นที่อยู่ทางเลือกแบบใหม่ในอนาคต
ลอนดอนนี่เป็นเมืองที่มีคลองนะครับ โดยคลองส่วนใหญ่ถูกขุดไว้ตั้งแต่สมัยปฏิวัตอุตสาหกรรมเพื่อที่จะใช้เป็นพื้นที่ในการขนส่งสินค้า พอที่ดิน แฟลต บ้านแพงขึ้นคนก็มาอาศัยในเรือกัน จะบอกว่าการอยู่ในเรือต้องบอกว่าประหยัดกว่า เรือที่คนลอนดอนอยู่กันส่วนใหญ่จะอยู่ฝั่งตะวันออก แล้วก็จะมีเรือ 2 ลักษณะที่คนอยู่กัน ใครไปลอนดอนแล้วชอบเดินเล่นแถวๆอีทลอนดอนก็จะเห็นเรือจอดตามแนวคลองรีเจ้นท์
ในสมัยก่อนคนใช้เรือเป็นบ้านหลังที่ 2 ใช้สำหรับพักร้อน แต่มาภายหลังเรือก็ถูกคนใช้เป็นบ้านหลักมากขึ้น การอยู่ในนั้นถือว่าประหยัดกว่าการเช่าบ้าน เช่าอพาร์ตเมนต์ แล้วอีกอย่างชีวิตมันก็เสรีดี ถามว่ามันเสรีอย่างไร?เวลาเราอยู่ในเรือเราไม่สามารถที่จะจอดเรืออยู่กับที่จุดเดียวเป็นเวลานานได้ไม่อย่างนั้นค่าจอดจะแพงมาก ทำให้ต้องมีการเคลื่อนย้ายเรือไปจอดที่อื่นๆทุกๆสองอาทิตย์ถือว่ามีความเป็นเสรีในการอยู่อาศัยมากๆการอยู่เรือเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆในลอนดอน
ในสมัยก่อนการอยู่เรือมีไม่กี่ร้อยลำ แต่ว่าตอนนี้มีอยู่เป็นพันๆลำ แต่ก็จะมีองค์กรที่คอยดูแล คอยควบคุมปริมาณของเรือไม่ให้มีมากเกินไปคอยควบคุมรักษาระเบียบ ท่านผู้อ่านคงจะสงสัยว่าเวลาปวดอึฉี่จะไปทิ้งอย่างไร คือเค้าจะมีจุดจอดเรือและก็เวลาเรือต้องเคลื่อนที่ไปทุก 2 สัปดาห์เค้าก็จะมีจุดให้ทิ้งพวกขยะมูลฝอยก็นับว่ามีการระเบียบที่น่าสนใจทีเดียว แล้วก็ตอนนี้ก็ถือว่าชีวิตทางเลือกอีกทางเลือกหนึ่งของคนลอนดอนนะครับ
การอยู่อาศัยในเรือของคนลอนดอน
แต่ถ้าไม่อยากอยู่แบบที่กล่าวมาก็จะมีชีวิตทางเลือกอีกแบบหนึ่งซึ่งก็ถือว่าไม่เป็นกระแส เพราะมันยังมีไม่เยอะมากแต่ก็มีอยู่ นั่นก็คือการอยู่แบบฮิปปี้ ฮิปปี้ก็เป็นวัฒนธรรมการอยู่ที่เบ่งบานในช่วงยุค60,70 เป็นชีวิตของคนที่อยู่แบบไม่มีกฏเกณฑ์อยู่แบบใกล้ชิดธรรมชาติ บ้านเราเค้าก็เรียกกันว่า "พวกบุปผาชน" ก็จะรู้จักกันว่าเป็นพวกที่รักความยุติธรรม เป็นพวกที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ เป็นพวกที่ฝันถึงอนาคตที่ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน
สภาพความเป็นอยู่แบบฮิปปี้นั้นมีความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย การอยู่อาศัยแบบกระโจม อยู่แบบบ้านดิน อยู่แบบกระท่อมบ้านไม้ แล้วมีกองไฟในการให้ความอบอุ่น แม้แต่ขนาดส้วมที่ใช้ขับถ่ายยังเป็นส้วมหลุมขุดที่ทำจากธรรมชาติ ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะรบกวนธรรมชาติน้อยที่สุด
สุดท้ายนี้เราก็จะมาพูดถึงการอยู่อาศัยแบบการใช้พื้นที่ร่วมกันหรือที่เค้า
เรียกกันว่า co-living space หลายคนคงมีความคุ้นๆกับคำนี้ เพราะว่ามีความคล้ายกับคำว่า co-working space หรือที่แปลในภาษาไทยว่า การใช้ที่ทำงานร่วมกัน co-living space คือการอยู่อาศัยแบบการใช้พื้นที่ร่วมกัน โดยทุกคนจะมีห้องนอนส่วนตัวเป็นของตัวเอง แต่ว่าภายนอกนอนออกไปจะเป็นห้องครัว ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นจะเป็นพื้นที่สาธารณะที่จะใช้ร่วมกันกับคนอื่น
co-living space มีความคล้ายๆกับการอยู่หอพักกับเพื่อนในสมัยเรียนเเลยใช่มั้ยหล่ะครับ ถือว่าเป็นการเซฟเงินในกระเป๋าเป็นอย่างมาก เพราะเราได้แชร์ในเรื่องค่าใช้จ่ายกับเพื่อนเหมาะสำหรับคนที่ยังไม่พร้อมจะซื้อบ้านในการอยู่อาศัย และก็ไม่ติดในเรื่องความเป็นส่วนตัวมาก การอาศัยอยู่แบบ co-living space ถือว่าช่วยตอบโจทย์มากเลยครับ
การอยู่อาศัยแบบco-living space
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ก็คือ alternative living หรือวิถีชีวิตทางเลือก
พยายามเลือกมาให้หลากหลาย สำหรับท่านผู้อ่านที่อยากลองเปลี่ยนวิถีชีวิตก็ลองดูนะครับ










ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น